วันศุกร์ที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

“พาโธ” (Patho)

พาโธ (Patho)

เป็นที่รู้จักของใครหลายๆฅน ที่นี่

ใช้โรงอาหารเป็นที่ กินอยู่หลับนอน

พาโธ อัธยาศัยดี กับทุกๆ ฅน

มักดีใจทุกครั้งที่ เห็นฅนนั้นฅนนี้ เดินเข้ามา

พาโธไม่บงบอกสายพันธุ์ที่แน่นอน

ตอนหนุ่มๆพาโธ น่าจะดูดีอยู่ไม่น้อย

ที่มักจะเห็นพาโธทำบ่อยๆ จนอดยิ้มไม่ได้ทุกทีคือ

การที่พาโธชอบ เอาสีข้างไปถูกับต้นไม้

กลับไปกลับมา อย่างเมามัน

ด้วยความที่ผ่านโลกมาอย่างโชคโชน

ร่างกายพาโธเลยไม่ค่อยสมบรูณ์

เวลาเดิน พาโธจะเดินเอียงๆ เสียศูนย์นิดหน่อย

และคงเพราะ ค่อนข้างจะมีอายุ

ที่มาของชื่อพาโธ นะหรือ

มาจากคำว่า “Pathology” ที่แปลว่า พยาธิวิทยา

เพราะ พาโธมีร่องรอยของพยาธิสภาพเยอะมาก

หลายๆ ฅนจึงเห็นว่าเหมาะกับชื่อนี้

พาโธ คงเล็งเห็นแล้วว่า

ในบั้นปลายชีวิต

ควรจะฝากฝังชีวิตไว้ที่นี่

ที่ คณะสัตวแพทย์ น่าจะดีที่สุด

ใช่ไหมพาโธ...

วันพุธที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

แมลงปอตัวแรกของปี…

เห็นเจ้าแมลงปอปีกบางตัวหนึ่ง

บินไปมาอย่าง งงๆ

คงเพิ่งออกมาสู่ฟ้ากว้างครั้งแรก

เคยมีใคร สักฅนบอกว่า

เมื่อไหร่ที่เห็นแมลงปอเริ่มออกบิน

นั่นคือสัญญาณของการเริ่มต้น

เริ่มต้นมีชีวิตบนฟ้ากว้าง

หลังจากฝั่งตัวใต้น้ำ มานาน

เริ่มต้นของฤดูหนาว

ไม่รู้ เพราะเคลิ้มหรืออ่อนไหวง่าย

ทุกครั้งที่เห็นแมลงปอ

มักจะนึกถึงลมหนาว

ตื่นเต้น

ตื่นเต้นกับเวลาของฤดูหนาว

ที่กำลังจะเริ่ม อีกในไม่ช้า... (มั้ง)

วันจันทร์ที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

อันเนื่องมาจาก

วันแม่ปีนี้
ไม่รู้ว่าจะป็นวันพิเศษ
สำหรับแม่หรือเปล่านะ
แม้หลายฅนอาจจะบอกว่า "รักแม่ทุกวัน"
แต่การที่มีสักวันที่ยกให้เป็นวันแม่แห่งชาติ
ที่ให้ใครบางฅน
ได้แสดงออกซึ่งความรักแม่อย่างเปิดเผย

ที่บ้าน ในปีนี้
พี่ชายเอาพวงมาลัยมาไหว้แม่

ตั้งแต่เป็นพี่น้องกันมา อายุจนปูนนี้
ไม่เคยเห็นพี่ชายจะทำอะไรประมาณนี้
555...สงสัย คงจะเริ่มแก่ๆกันแล้ว มั้ง
ก็ดีนะ แม้จะทำแค่วันเดียว
ดีกว่า ไม่กล้าแสดงให้รู้ว่ารักเลยสักครั้ง...

วันจันทร์ที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑

"แม่"

ตั้งแต่ที่พ่อเสียไป
ทำให้เราหยุดมองแม่มากขึ้น
เมื่อก่อนเราเหมือนเดินนำพ่อกับแม่มาตลอด
โดยมีพ่อกับแม่เดินอยู่ข้างหลัง มองดูเราตลอดเวลา
หลังจากที่พ่อเสียไปแล้ว
เรามองเห็นถึงความโรยชรา ของแม่ชัดเจนขึ้นมาก
เราเริ่มที่จะเดินช้าลง
เริ่มที่จะหยุดเดิน แล้วเปลี่ยนมาเดินตามหลังแม่
เพื่อที่จะได้มองเห็นแม่ได้ตลอดเวลา
ลึก ลึกในใจเรา รู้สึกหวาดหวั่น
รู้สึกกลัว กลัวกับเวลาที่เริ่มนับถอยหลัง
ไม่รู้ว่าเรากับแม่จะยังมีชีวิตอยู่ด้วยกันอีกนานแค่ไหน
ที่จริงเวลาก็คงนับถอยหลังมานานแล้ว
เพราะ ทั้งพ่อและแม่เป็นความคุ้นเคย
ที่อยู่ในชีวิตเรามาแต่เกิด
จนแยกความแตกต่างไม่ออก

แม่มักจะบอกว่า
แม่คงจะมีชีวิตอยู่ด้วยอีกไม่กี่ปี
หรือไม่ก็ เมื่อถึงวันนั้นแม่ก็คงตายไปแล้ว
ด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะ เสมอ
เราก็มักจะหัวเราะและยอมรับกับสิ่งที่แม่พูด
ระหว่างเรากับแม่
มักมองเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาโลก
ที่ไม่มีใครหนีพ้น
แต่ลึก ลึก เราก็อดที่จะหวั่นไหวไม่ได้

เพียงแค่นึกถ้าวันนั้นมาถึง

ทุกครั้งที่แม่มักจะสั่งเสียเรื่องราวต่างกับเรา

เรารู้สึกอ้างว้างจับหัวใจ...

วันอาทิตย์ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑

"พ่อ"

พ่อ ฅนที่คุ้นเคยที่สุดในชีวิต

พ่อ ฅนที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

พ่อ ฅนที่รู้จักมาตั้งแต่จำความได้

พ่อ ฅนที่ใกล้ตัวมากที่สุด

ใกล้จนนึกไม่ออกว่า

ถ้าวันหนึ่งที่ไม่มีพ่อจะเป็นอย่างไร

และวันนี้ได้คำตอบแล้วว่า

ยามที่มีพ่อ ทำให้ชีวิตเราอบอุ่น เพียงไร

ทำให้เราอุ่นใจแค่ไหน...

"เมื่อสามปีที่แล้ว"

เมื่อสามปีที่แล้ว

ตีสอง กว่าๆของคืนวันที่สิบเก้าต่อวันที่ยี่สิบ

เสียงโทรศัพท์ที่บ้านดังขึ้น

ปลุกทุกฅนในบ้าน

ให้ตื่นจากการหลับใหล

ในการหลับใหลนั้น

มีความหวั่นไหว วนเวียนอยู่ในใจ

เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นในคืนนั้น

บอกให้เรารู้โดยไม่ต้องรับสายว่า มีเรื่องอะไร

นานแค่ไหนไม่รู้หลังจากเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เหมือนกลั้นใจรอ

รอที่จะฟังว่าแม่จะบอกว่าอะไร

ทั้งๆที่เราก็รู้อยู่เต็มหัวใจ

เสียงแม่บอกว่า

พ่อเขาไปแล้วนะ

เรานั่งร้องไห้อยู่บนห้องเงียบๆ

แม่เองก็คงกำลังร้องไห้อยู่เหมือนกัน

ต่างฅนต่างไม่มีคำใดจะปลอบใจซึ่งกันและกัน...

วันจันทร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๑

Everytime

บางเวลาที่ฉันขาด
เธอจะเติมให้กัน

บางเวลาที่หนาวสั่น
เธอจะเป็นอุ่นไอ

บางเวลาที่แพ้มา
ก็ยังมีเธอเข้าใจ

บางเวลาเลวร้าย
ฉันยังมีเธอ

บางเวลาฉันทำผิด
เธอยังยอมอภัย

บางเวลาฉันร้องไห้
เธอยังให้ไหล่อิง

ไม่ใช่คนที่โชคดี
ที่เกิดมามีทุกสิ่ง

แต่ฉันโชคดีจริง-จริง ที่มีเธอ

ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้
ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

เธอยังเหมือนเคย
ยังแสนดีอยากบอกว่าซึ้งใจ

ต่อจากวันนี้ คน-คนนี้ จะทุ่มเททั้งใจ
ตอบแทนรักที่ยิ่งใหญ่
ตอบแทนในความหวังดี
ตอบแทนเวลาที่ให้ฉัน
ด้วยทุกเวลาของฉัน
' ฉันให้เธอ '

วันจันทร์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

"เขียนถึงครู..."

ในชีวิตของแต่ละฅน
จะมีครูมาสักกี่ฅน กันนะ
ครูเองก็มีลูกศิษย์เป็นร้อย
เป็นพัน เป็นหมื่น
เป็นแสนฅนได้ไหมนะ

ครูประจำชั้นเมื่ออนุบาล
ครูให้เรียกครูว่า "แม่"
เพราะลูกศิษย์ตัวน้อยในเวลานั้น
ร้องไห้ทุกวันที่ไปโรงเรียน
ป่านนี้ครูคงปลดเกษียณไปแล้ว
และไม่รู้ป่านนี้ครูจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า
แต่ยังระลึกถึงครูเสมอ

ครูประจำชั้นตอนประถม๓
เป็นครูที่ดุ และตีเจ็บมาก
เคยโดนตีเพราะลืมทำข้อสอบ
โดนทำโทษบ่อยๆ
เพราะขี้เกียจทำการบ้าน
ครั้งหนึ่ง ครูเคยหาเข็มกับด้าย
มาเย็บกระเป๋าเสื้อนักเรียนที่ขาดให้
จนวันนี้
ยังจำครูได้เสมอไม่เคยลืม
แม้วันเวลาจะผ่านมาเป็นสิบๆปี
แม้อาจจะเป็นเรื่องราวเล็กน้อยสำหรับครู
แต่เป็นความทรงจำอันยิ่งใหญ่
ที่ลูกศิษย์เกเรฅนนี้ไม่เคยลืม


จะผ่านวัน ผ่านเดือน
ผ่านปี มานานเท่าไหร่
ครูก็ยังคงเป็นครู
ที่ศิษย์ฅนนี้ยังคงระลึกถึง
เสมอมา ไม่เคยลืม...

ปล. เขียนลงในMBlog เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

วันอังคารที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๑

"รักไม่รู้ดับ..."

รักไม่รู้ดับ...

ถึงจะสิ้น วิญญาณกี่ครั้ง
ฉันก็ยัง รักเธอฝังใจ
แม้จะสิ้น ดวงจันทร์ไฉไล
ไม่เป็นไร เพราะยังมีเธอ
ฟ้าจะมืด จะมัวช่างฟ้า
ขอให้มี สายตาหวานละเมอ
ถึงจะสิ้น แผ่นดินนะเธอ
ให้ได้เจอ ยิ้มเธอชื่นใจ
ไม่ได้ชิด ก็ขอเพียงได้ชม
ไม่ได้สม ไม่เห็นแคร์อะไร
ขอให้ได้รัก รัก รัก รัก รักเธอเข้าไว้
ไม่เช่นนั้น ใจฉัน ใจฉันคงหลุดลอย
ถึงโลกแตก แหลกลาญสิบครั้ง
ฉันก็ยัง หวังใจรอคอย
แม้นจะสิ้น วิญญาณเลื่อนลอย
ก็จะคอย พบเธอชาติอื่นเอย

..................

ปล. ฟังเพลงได้ที่นี่คับเลือกได้ตามอัธยาศัย

ลิ้งค์นี้ มีทั้งรูปและเสียง http://www.ktc.co.th/download_rt/downloadringtone.php
"รักไม่รู้ดับ (Sound)"http://www.ktc.co.th/download_rt/Track2.mp3
"รักไม่รู้ดับ (Voice Only)"http://www.ktc.co.th/download_rt/Track1.mp3